วันศุกร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 0 ความคิดเห็น

กฎหมู่กับกฎหมาย

วันนี้ได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนตี๋ พลา(เก่า) เลยต้องไปไล่อ่านข่าวออนไลน์จากหนังสือพิมพ์หลายฉบับซึ่งมีข่าวคราวเกี่ยวกับเพื่อนโอ๋ของเราที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ด้านชายแดนจังหวัดสระแก้ว แต่จะขอเก็บข่าวมาจาก http://manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9550000054922 เว็บไซท์ของหนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการออนไลน์ ประจำวันที่ 3 พฤษภาคม 2555 16:35 น. ซึ่งพาดหัวข่าวว่า

 ...กฎหมู่อยู่เหนือ กม. ชาวสระแก้วฮือปิดล้อม จนท.หลังถูกจับลักลอบนำเข้าข้าวเปลือกจากเขมร…

โดยมีรายละเอียดของข่าวดังนี้

ขอขอบคุณภาพจาก นสพ.ไทยรัฐออนไลน์

สระแก้ว - ทหารหน่วยเคลื่อนที่เร็ว ปิดล้อมจับข้าวเปลือกจากเขมร เพื่อส่งขายให้นายทุนชาวไทย ชาวบ้านไม่พอใจรวมตัวประท้วงทหาร ปิดล้อมเจ้าหน้าที่ไม่ให้นำข้าวเปลือกส่งศุลกากร‏

วันนี้ (3 พ.ค.) ร.อ.ประสิทธิ์ เอี่ยมเจริญ ผบ.ร้อยหน่วยเคลื่อนที่เร็ว กองกำลังบูรพา นำกำลังเข้าปิดล้อมบนถนนลูกรัง สายคลองชลประทานเข้าหมู่บ้านร่มไทร และหมู่บ้านคลองแผง ต.ทัพเสด็จ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว เพื่อจับกุมขบวนการลักลอบขนข้าวเปลือกออกมาจากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อส่งขายให้แก่นายทุนเจ้าของโกดังรับซื้อข้าวในเขตอำเภอตาพระยา 

โดยขณะที่กำลังทหารกำลังจับกุมรถหกล้อบรรทุกหมายเลขทะเบียน 80-9331 สระแก้ว ซึ่งบรรทุกข้าวเปลือกมาเต็มคันรถ ชาวบ้านได้นำรถอีแต๊ก และรถหกล้อซึ่งบรรทุกข้าวเปลือกมาเช่นเดียวกัน ปิดถนนบริเวณสามแยกสายบายพาส ที่จะเข้าอำเภอตาพระยา ซึ่งทางทหารก็สามารถนำรถหกล้อที่บรรทุกข้าวเปลือกคันดังกล่าวออกมาได้ แต่รถคันอื่นที่ลักลอบบรรทุกข้าวเปลือกออกมาจากประเทศเพื่อนบ้านไม่สามารถยึดได้ เนื่องจากนายทุนได้เกณฑ์ชาวบ้านเข้าปิดถนนจำนวนมาก โดยมีชาวบ้านตั้งแต่บ้านโคกระกา บ้านร่มไทร และบ้านคลองแผง จำนวนนับร้อยคน ทยอยเข้าสมทบปิดล้อมทหาร ทางทหารจึงแจ้งไปยังนายอำเภอตาพระยา ให้ช่วยส่งกำลังฝ่ายปกครองเข้ามาช่วยเจรจา

ด้านนายยุทธนา นุชนารถ นายอำเภอตาพระยา หลังทราบเรื่องจึงได้นำกำลังฝ่ายปกครองและตำรวจเข้าไปเสริม และเข้าเจรจากับชาวบ้านทีชุมนุมปิดถนน แต่ชาวบ้านไม่ยอมโดยยืนกรานจะเอาข้าวเปลือกเข้าไปส่งให้แก่โกดังที่จ้างให้บรรทุกมา โดยไม่ยอมให้ทางทหารยึด หลังใช้เวลาเจรจานานหลายชั่วโมง แต่ก็ตกลงกันไม่ได้ จนชาวบ้านเริ่มทยอยเดินทางเข้ามาสมทบมากขึ้นเรื่อยๆ เกือบ 300 คน นายอำเภอจึงตัดสินใจให้ชาวบ้านนำข้าวเปลือกที่ลักลอบบรรทุกเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน นำไปส่งที่โกดังรับซื้อได้ เนื่องจากกลัวว่า เหตุการณ์จะบานปลาย ชาวบ้านจึงทยอยนำรถบรรทุกข้าวเปลือกเข้าไปส่งให้แก่โกดังข้าวซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับบริเวณจุดประท้วงปิดถนน
ร.อ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า หากเป็นเช่นนี้ ทางทหารก็ทำงานลำบากขึ้นเมื่อกฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย ส่วนศุลกากรหลังทหารถอนกำลังออกจากพื้นที่ก็บอกกับผู้สื่อข่าวว่า พวกตนก็ไม่กล้าเข้าไปในพื้นที่เพราะกลัวชาวบ้านจะปิดล้อมทำร้าย 
แหล่งข่าวจากกลุ่มชาวบ้านที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนไม่กล้าเปิดเผยตัว กล่าวว่า วิธีการนี้เป็นวิธีของชาวบ้านที่หากินกันมาตั้งแต่ปู่ ย่า เนื่องจากไม่มีอาชีพอย่างอื่น ทำนาข้าวก็ตายปลูกพืชอย่างอื่นก็ไม่ได้ผล จึงต้องใช้วิธีการนี้ พร้อมกล่าวอีกว่า ถ้าถูกทหารจับไปส่งศุลกากร หากเป็นรถ 6 ล้อก็ถูกปรับเป็นแสน ชาวบ้านไม่มีทุนก็ต้องไปกู้เงินนอกระบบมาเสียค่าปรับ ซึ่งเป็นทุกข์หนักขึ้นมากว่าเดิม ส่วนเจ้าหน้าที่จับกุมก็สบายไปแถมมีเงินค่าจับอีก

อ่านข่าวจบแล้วหากเป็นคนทั่วไปอ่าน ก็สามารถคิดได้หลายลักษณะตามแต่ทัศนคติและความเชื่อ ของแต่ละบุคคล ซึ่งขึ้นอยู่กับการรับรู้ข้อมูลข่าวสารด้วยว่าได้รับมาจากแหล่งใด? และผู้ฟังใช้วิจารณญานหรือสติปัญญาของตนมาไตร่ตรองมากน้อยเพียงไร?
แต่ถ้าหากคิดในลักษณะของผู้ปฏิบัติหน้าที่แล้ว ก็คงจะพูดเหมือนกับที่เพื่อนโอ๋พูดนั่นเอง เพราะชาวบ้านบางส่วนในสังคมวันนี้กำลังเห่อเหิมกับรสชาติของประชาธิปไตยตามคำบอกเล่า โดยไม่สนใจใยดีกับคำว่า กฎหมายและความถูกต้อง ที่ควรจะมีอยู่ในสังคมมากกว่าคำว่าเสียงของคนหมู่มาก
 
;